Morpheus8
เทคโนโลยี่หดชั้นไขมัน ยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน
Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถหดชั้นไขมันใต้ผิว ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมตามกาล (Aging skin) ให้อ่อนเยาว์ ซึ่งใช้ได้ทุกสภาพสีผิวแม้เป็นคนผิวคล้ำ (Ethnic skin) พร้อมลดโอกาสเกิดจุดด่างดำจากการอักเสบของผิว (Post-inflammatory hyperpigementation, PIH) ได้อย่างดี
Morpheus8 สามารถตั้งโปรแกรมรักษาเพื่อควบคุมระดับความลึกของ Pin และนำส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio-Frequency: RF) สู่ชั้นผิวบริเวณที่ต้องการรักษา ซึ่งปัจจุบันได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาให้เป็น Fractional technology สำหรับศัลยแพทย์และแพทย์ผิวหนังซึ่งสามารถเข้าถึงชั้นผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology) เพื่อกระชับหน้ากระตุ้นคอลลาเจน Morpheus8 มอร์เฟียสเอท
หลักการทำงาน
Morpheus8 จัดเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Lifting) ซึ่งช่วยกระตุ้นการเรียงตัวของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Remodeling) ผ่านเข็มสีทองขนาดเล็ก 24 เล่มสำหรับทำที่ใบหน้า และ 40 เล่ม สำหรับทำ Body ซึ่งส่งคลื่นความถี่วิทยุลงไปชั้นใต้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Morpheus8 ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
* ลดเลือนริ้วรอย เส้นลึก
* รักษาแผลเป็น จุดกระด่างดำและผิวที่ไม่เรียบเนียน
* ปรับเฉดสีของผิว (Skin tone)
* ฟื้นฟูใบหน้า ชั้นไขมันใต้คาง คอ และผิวกาย เช่น ท้องแขน หัวเข่า หน้าท้องที่หย่อนคล้อย
* ลดขนาดรูขุมขนกว้าง
ทำไมต้องทำการรักษาด้วย Morpheus8 ?
Multi-layer technology: สามารถปรับระดับความลึกของชั้นผิวได้ตั้งแต่ 2-3 และ 4 มิลลิเมตร (ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว) ซึ่ง Morpheus8 จะนำส่งพลังงานความถี่วิทยุ (RF) สู่บริเวณที่รักษาผ่านเข็มที่เรียกว่า Coated pins โดยไม่เกิดความร้อนทำลายผิวด้านบน (Epidermis) ทั้งยังกระตุ้นการซ่อมแซมเส้นใยคอลลาเจน เส้นใยอีลาสติน และบริเวณเอ็กซ์ตราเซลลูลาร์ เมทริกซ์ (Extracellular matrix) ที่มีองค์ประกอบหลักคือไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid) ในผิวให้เรียงตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้หน้ากระชับ นอกจากนี้ Multi-layer technology ยังช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ซึ่งให้ชั้นไขมันใต้ผิวหดตัว
Morpheus8 tip: หัวอุปกรณ์มอร์เฟียสเอทที่ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งเท่านั้น โดยบรรจุในซองที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยระบบแกมมา (GAMMA sterilized) อย่างมิดชิด จึงมั่นใจในความสะอาด
ขั้นตอนก่อนรักษา
1. ทายาชาก่อนเข้ารักษาด้วยมอร์เฟียสเอทไว้ 45-60 นาที โดยขณะทำ จะตั้งค่าพลังงานที่ผู้เข้ารับการรักษา สามารถทนได้ซึ่งขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของยาชา ความรู้สึกและการรับรู้ตามแต่ละบุคคล
2. กรณีผู้มีประวัติติดเชื้อเริม (Herpes Simplex) แพทย์จะแนะนำให้กลุ่มยา Anti HSV viral prophylaxis ก่อนรักษา
3. เช็ดยาชาออกจากผิวบริเวณที่รักษาให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า (Cleanser) ก่อนเช็ดซ้ำอีกครั้งด้วย Alcohol 70%
4. หากคนไข้ทานยากลุ่มละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin) ควรหยุดก่อนรักษา 7 - 10 วัน กลุ่มอาหารเสริมที่มีผลต่อเลือดออกง่าย เช่น กระเทียม โสม แปะก๊วย วิตามินซี วิตามินอี น้ำมันตับปลา แนะนำงดทานก่อนรักษาอย่างน้อย 7 วัน และทานอีกครั้งหลังทำ 3-7 วัน
ขั้นตอนการรักษา
1. แพทย์รักษาผิวบริเวณที่คนไข้ต้องการ
2. การตอบสนองของผิวจะพบเพียงการบวมเล็กน้อยและแดงเรื่อ ๆ อาจรู้สึกยิบ ๆ ได้บนผิว และพบจุดเลือดออกเล็กน้อยที่ปลายเข็ม (Pin point bleeding) ซึ่งเกิดขึ้นได้ในบางราย
3. ระหว่างรักษาควรใช้เครื่องเป่าลมเย็นร่วมด้วย เพื่อให้รู้สึกสบายผิวบริเวณที่ทำการรักษา
วิธีดูแลผิวหลังการรักษา
1. ประคบเย็นบริเวณผิวที่รักษาด้วย Morpheus8 เพื่อให้รู้สึกสบายผิวบริเวณที่รักษาอย่างน้อย 20 นาที
2. ทา Healing ointment หรือ Antibiotic ointment เคลือบผิวหลังรักษา 1 - 3 วัน และหลีกเลี่ยงน้ำ 24 ชั่วโมง
3. หากผิวปิดและเกิดสะเก็ดบาง ๆ สามารถทา Moisturizer ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและกันแดด SPF มากกว่า 30 ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ทั้งยังแต่งหน้า ซึ่งสะเก็ดบริเวณใบหน้าคนผิวมันอาจเห็นสะเก็ดเคลือบผิวประมาณ 3-5 วัน ผิวแห้งอาจเห็นสะเก็ดเคลือบผิวประมาณ 7-10 วัน หากเป็นผิวกายอาจเห็นสะเก็ดเคลือบผิวประมาณ 2-3 สัปดาห์